เพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์ Email Marketing หลังการขายบน Klaviyo

ลูกค้า 80% ซื้อเพียงครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาอีก การรักษาลูกค้าเดิมนั้นประหยัดกว่าการหาลูกค้าใหม่มาก แล้วจะเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำและปรับปรุงยอดขายได้อย่างไร? บทความนี้จะแนะนำวิธีสร้างกลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมลหลังการขายที่มีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์ม Klaviyo

กลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมลหลังการขายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การนำคำแนะนำง่ายๆ ในบทความนี้ไปใช้ คุณสามารถปรับปรุงยอดขายได้อย่างมากในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

โปรดทราบว่าช่วงเวลาหลังจากที่ลูกค้าชำระเงินและก่อนที่จะได้รับสินค้าเป็นช่วงเวลาที่พวกเขามีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณมากที่สุด hãyใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้

กลยุทธ์อีเมลหลังการขายที่มีประสิทธิภาพควรบรรลุ 5 เป้าหมาย:

  1. สร้างความพึงพอใจหลังการซื้อ: ลดความรู้สึกเสียดายของลูกค้าด้วยข้อความที่เหมาะสม ช่วยให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นและรอคอยสินค้า
  2. ให้ข้อมูลการจัดส่งที่ครบถ้วน: ช่วยให้ลูกค้าติดตามคำสั่งซื้อได้ง่าย สร้างความมั่นใจและความไว้วางใจ
  3. แนะนำการใช้สินค้า: แนะนำวิธีใช้สินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสบการณ์การใช้งานสูงสุด และเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำ
  4. Upsell และ Cross-sell: เสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือสินค้าที่อัปเกรด ใช้ประโยชน์จากความสนใจของลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าคำสั่งซื้อ
  5. รวบรวมความคิดเห็นและคำติชม: ขอให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าใหม่

บน Klaviyo คุณสามารถสร้างกลยุทธ์อีเมลอัตโนมัติหลังการขายได้อย่างง่ายดายโดยใช้เทมเพลต “Shipping Confirmation” แก้ไขเนื้อหาอีเมลเทมเพลตให้เหมาะสมกับแบรนด์และเป้าหมายของคุณ

ใช้คุณสมบัติการแบ่งกลุ่มตามเงื่อนไขเพื่อปรับเนื้อหาอีเมลให้เป็นส่วนตัว เช่น ส่งอีเมลที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า หรือสำหรับลูกค้าที่มีคะแนนสะสมและไม่มีคะแนนสะสม

ซิงโครไนซ์อีเมลหลังการขายกับอีเมลการทำธุรกรรมจาก Shopify หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งอีเมลมากเกินไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้ลูกค้ารำคาญ

สุดท้าย วิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญอีเมลของคุณโดยใช้เครื่องมือ benchmarks ของ Klaviyo เพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม

Leave a Comment