เคล็ดลับ Klaviyo ที่คุณอาจยังไม่รู้

Klaviyo มีฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่มากมายที่สามารถส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างมาก บทความนี้จะเปิดเผยฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอีเมลการตลาดและยอดขายของคุณ

Smart Send Time: ส่งอีเมลถูกเวลา เพิ่มโอกาสเปิดอ่าน

ฟีเจอร์นี้วิเคราะห์พฤติกรรมและการโต้ตอบของผู้รับ เพื่อกำหนดเวลาที่พวกเขามักจะเปิดอีเมลมากที่สุด Smart Send Time ช่วยลดการคาดเดาเวลาส่งแบบเดิมๆ ต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 12,000 คน ในการส่งครั้งแรก (exploratory send) Klaviyo จะแบ่งรายชื่อออกเป็น 24 กลุ่มเท่าๆ กัน และส่งอีเมลภายใน 24 ชั่วโมงในวันที่เลือก หลังจากการทดสอบส่งหลายครั้ง Klaviyo จะกำหนดเวลาส่งที่ดีที่สุดและแสดงในรายงาน คุณสามารถเลือกส่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุด (focused window) 4 ชั่วโมง หรือเวลาที่ดีที่สุด (optimal time) ควรใช้ Smart Send Time เป็นประจำเพื่อให้อัลกอริทึมอัปเดตตามพฤติกรรมของผู้รับที่เปลี่ยนแปลงไป

Product Feeds: แนะนำสินค้าตรงใจ เพิ่มยอดขาย

Product Feeds ช่วยปรับแต่งอีเมลให้เป็นส่วนตัวโดยการแสดงสินค้าที่ตรงกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์และการซื้อของผู้รับแต่ละคน ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มอัตราการแปลงเป็นสองเท่าหรือมากกว่า ตัวอย่างการใช้งาน: แนะนำสินค้าในอีเมลสำหรับสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า, แสดงสินค้าในอีเมลส่วนลด, แนะนำคอลเลคชันสินค้าในอีเมล win-back เมื่อสร้าง Product Feed คุณสามารถปรับแต่งสินค้าที่แสดงตาม: ขายดีที่สุด, ดูมากที่สุด, ใหม่ล่าสุด หรือแบบสุ่ม คุณควรเลือกกรอบเวลา (90 วันหรือ 3 วัน) และกรองตามหมวดหมู่ ราคา หรือระดับสินค้าคงคลัง เพื่อการแสดงผลที่ดีที่สุด ควรปรับจำนวนสินค้าต่อแถว ความสูงของรูปภาพ และปรับแต่งปุ่มกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ให้เหมาะสมกับการออกแบบอีเมล

ตั้งค่า Conversion Metric: วัดผลลัพธ์ที่แม่นยำ

การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้อาจเปลี่ยนแปลงคุณค่าที่คุณได้รับจาก Klaviyo อย่างสิ้นเชิง Klaviyo ใช้ค่า “active on-site” (ใช้งานบนเว็บไซต์) เป็นค่าเริ่มต้น แต่ควรเปลี่ยนเป็น “place order” (สั่งซื้อ) เพื่อติดตามรายได้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเห็นรายได้รวม รายได้จาก Klaviyo และรายได้ของแต่ละแคมเปญอีเมล/flow การวิเคราะห์รายได้ตามอีเมลในแต่ละ flow ช่วยให้ตัดสินใจเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ปิดอีเมลที่ไม่ได้ผล เพิ่มการทดสอบ A/B ของอีเมล หรือเพิ่มอีเมลใน flow ที่ทำงานได้ดี

Leave a Comment