กลยุทธ์โฆษณา Facebook นี้เน้นการทดสอบ Creatives (รูปภาพ/วิดีโอโฆษณา) และ Marketing Angles (มุมมองการตลาด) เริ่มต้นด้วยการสร้าง Creatives 9 ชิ้น แบ่งเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มนำเสนอ Marketing Angle ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 3 Angles อาจเป็น รักษาสิว ลดริ้วรอย และ ป้องกันแสงแดด แต่ละ Angle จะมี 3 Creatives ที่มีรูปภาพและเนื้อหาแตกต่างกัน
ใช้ Facebook Ads Manager เพื่อสร้างแคมเปญ เลือกเป้าหมายเป็น “Sales” (ยอดขาย) และประเภทแคมเปญเป็น “Manual Sales Campaign” (แคมเปญยอดขายแบบกำหนดเอง) ในระดับแคมเปญ ปิด “Advantage Campaign Budget” เพื่อควบคุมงบประมาณสำหรับแต่ละ Ad Set (กลุ่มโฆษณา)
ในระดับ Ad Set ให้คงการตั้งค่าเกี่ยวกับข้อมูลประชากร สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์สำหรับทั้ง 3 Ad Set เพื่อให้มั่นใจถึงความสอดคล้องกันในระหว่างการทดสอบ งบประมาณสำหรับแต่ละ Ad Set ขั้นต่ำ 25 USD/วัน ปิด “Detailed Targeting” (การกำหนดเป้าหมายโดยละเอียด) และปล่อยให้ Facebook ปรับ Optimize ผู้ชมโดยอัตโนมัติ
ในระดับโฆษณา อัปโหลด Creatives ที่สอดคล้องกับแต่ละ Angle ใช้เนื้อหาสั้น ๆ ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นการตัดสินใจอย่างชัดเจนเช่น “ซื้อเลย”
หลังจากรันแคมเปญประมาณหนึ่งสัปดาห์ ให้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุ Angle และ Creative ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยพิจารณาจาก Cost per Result (ต้นทุนต่อผลลัพธ์) Creative และ Angle ที่มีต้นทุนต่ำที่สุดและอัตรา Conversion สูงสุดจะเป็นผู้ชนะ
หลังจากระบุ Creative ที่ชนะแล้ว สามารถขยายขนาดโดยการสร้างแคมเปญใหม่ด้วย Creative นั้นและเพิ่มงบประมาณ หรือ ทดสอบ Creatives อื่น ๆ ใน Angle ที่ชนะเดียวกันเพื่อค้นหา Creatives ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติม เมื่อมี Creatives ที่ชนะอย่างน้อย 3 ชิ้น สามารถใช้ “Campaign Budget Optimization” (CBO – การปรับงบประมาณแคมเปญให้เหมาะสม) เพื่อให้ Facebook จัดสรรงบประมาณระหว่าง Creatives เหล่านี้โดยอัตโนมัติ CBO ช่วยให้ Facebook เพิ่มประสิทธิภาพโดยการกระจายงบประมาณไปยัง Creative ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
กลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา ค้นหาปัจจัยที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และขยายขนาดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด